Last updated: 25 ม.ค. 2567 | 780 จำนวนผู้เข้าชม |
ที่มา wikipedia.org
มนุษย์คนแรกบนโลกที่ได้เริ่มทำศัลยกรรมจมูก คือ William Michael Spreckly เขาเป็นลูกชายคนโตของของช่างทำผ้าฉลุลายในประเทศอังกฤษ ตัววิลเลียมเองเป็นถึงร้อยโทในหน่วยเชอร์วูด ฟอเรสเตอร์ (Sherwood Forester) หน่วยรบแนวราบของประเทศอังกฤษ
ที่มาภาพ todayinhistory.blog
ในระหว่างที่วิลเลียมกำลังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารของหน่วยรบเชอร์วูด ฟอเรสเตอร์ที่เมืองอีลิงอยู่นั้น เขาก็ได้โดนระเบิดมือจากฝั่งข้าศึกที่โจมตีมาทำให้จมูกของเขาเสียหาย นั่นจึงเป็นเหตุให้วิลเลียมได้เข้ารับการรักษาที่หน่วยศัลยกรรมพลาสติก กิลลีส์ (Gillies)
โดยวิธีการที่ใช้รักษาวิลเลียม คือ การปลูกถ่ายกระดูกอ่อน เป็นการนำกระดูกอ่อนจากซี่โครงมาหนึ่งชิ้นตัดเป็นลูกศรและสอดไว้ใต้หน้าผาก 6 เดือน เมื่อเวลาผ่านไปกระดูกกับกับผิวหนังที่ปิดอยู่ถูกยกขึ้น ทำให้จมูกของวิลเลียมใหญ่ขึ้น เพราะแบบนั้นมันเลยทำให้เขาถูกคนรอบข้างล้อเลียนจนตัวเองสูญเสียความมั่นใจและเกิดปมให้กับตนเอง
โดยแพทย์ผู้รับผิดชอบในการรักษาจมูกของวิลเลียม คือ Dr.Harold Delf Gillies แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูกจากนิวซีแลนด์ ทุกการรักษาของกิลลีส์ในช่วงสงครามจะถูกบันทึกโดยตัวเจ้าตัวเสมอ เพื่อเผยแพร่ตัวอย่างรวมถึงเทคนิคทั้งหมดเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อไป
บันทึกของกิลลีส์ถูกตีพิมพ์ออกมาในปี 1920 โดยแต่ละบทจะอธิบายด้วยกรณีศึกษาหรือตัวอย่าง มีทั้งระบุสาเหตุของแผล สภาวะที่หายแล้ว ขั้นตอนการรักษา ตลอดจนผลของการรักษา
หลังจากผ่านขั้นตอนการทำจมูกแล้ว สิ่งที่ควรรู้อันดับแรกเลยก็คือวิธีการดูแลตนเองหลังจากทำจมูก เพื่อให้หายบวมไวขึ้นและไม่ให้แผลฟกช้ำหรือแย่กว่าเดิม
1. ควรทำการประคบเย็นประมาณ 5 วันหลังผ่าตัดเพื่อให้เลือดหยุดไหล หากไม่ประคบเย็นสามารถทำให้เลือดออกและเกิดพังผืด ส่งผลให้จมูกเบี้ยว
2. นำไม้พันสำลีหรือคอตตอนบัดชุบน้ำเกลือในการดูแลโพรงจมูก สิ่งที่ห้ามใช้เลยคือ เบตาดีน แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโดยเด็ดขาด
3. หลีกเลี่ยงที่ที่มีฝุ่นเยอะ เพราะจะทำให้ไอหรือจามได้ง่าย
4. พบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรอวันตัดไหม
5. หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
6. เลี่ยงอาหารที่สามารถทำให้เกิดอาการแพ้โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้บริเวณจมูกบวมแดงขึ้นมาก
7. ควรงดแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
26 ก.พ. 2567