แวบมาบอกเรื่องที่คนอยากทำ “ปากกระจับ” ต้องรู้

     เคยได้ยินไหมว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจฉันใด รอยยิ้มก็เป็นประตูของดวงใจฉันนั้น” จากวลีนี้จะยิ่งทำให้เห็นเลยว่านอกจากดวงตาแล้วก็ปากนี่แหละที่มนุษย์รักความสวยความงามอย่างเราแคร์ เพราะปากเองเป็นส่วนประกอบบนใบหน้าที่ทำให้บุคลิกของเราชัดเจนยิ่งขึ้น ถ้าคนมีมุมปากคว่ำก็จะทำให้รู้สึกว่าหน้าดุ ถ้ามุมปากยกขึ้นก็จะดูหน้าหวาน ดังนั้นการทำ ‘ปากกระจับ’ จึงกลายมาเป็นประเภทการศัลยกรรมอันดับต้น ๆ ที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ มักจะเลือกทำ

ปากกระจับคืออะไร ?

     แล้วทำไมต้องเรียกปากกระจับ มันคืออะไรเหตุใดจึงนิยมทำ ? ซึ่งปากกระจับถูกเรียกตามรูปทรงของมัน โดยปากทรงนี้คล้ายกับ ‘กระจับ’ พืชน้ำที่อาศัยในน้ำคล้ายบัวมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงครรภ์ แต่เด็ก ๆ นิยมนำมาต้มกินหรือนำไปเป็นของเล่นใช้ขวิดกันแทน ลักษณะของมันถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพชัดคือคล้ายกับหัวควายหรือคันธนู เพราะมีทรงโค้งยกขึ้นที่มุมทั้งสองด้านและมีส่วนนูนตรงกลาง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อปากกระจับแต่บางคนก็เรียกปากปีกนก

     โดยปากกระจับเป็นรูปทรงที่คนเอเชียชอบทำเพราะทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น เหตุจากปากของคนเอเชียส่วนใหญ่จะมีปัญหาปากห้อย หนา และสั้น เทรนด์การทำปากกระจับจึงกลายมาเป็นกระแสในฝั่งเอเชียรวมถึงประเทศไทยที่อยู่ในแถบเอเชียนั้นด้วย

ด่านที่ 1 ก่อนจะทำมาเช็กก่อนทำได้จริงไหม

     สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่คิดและไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วว่าปากกระจับนี่แหละคือศัลยกรรมที่ฉันอยากทำ งั้นมาหยุดดูตรงนี้ก่อน ด่านแรกที่ควรเช็กว่าเราผ่านไหมก่อนจะไปด่านถัดไป นั่นก็คือ ‘กลุ่มผู้ที่ห้ามทำปากกระจับ’ มีใครบ้าง ไปดู

1. ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาสุขภาพช่องปาก เช่น ดัดฟัน เหงือกอักเสบ เพราะอาจส่งผลให้เกิดปากอักเสบได้ง่ายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง
2. ผู้ที่มีสภาวะจิตใจไม่มั่นคง (กลุ่มนี้ควรได้รับการประเมินจากแพทย์เฉพาะทาง) เพราะการศัลยกรรมอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจคนไข้ได้ เนื่องจากระหว่างที่แผลพักฟื้นอาจจะมีอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่คนไข้อาจรับไม่ไหว
3. ผู้ป่วยกลุ่มที่มีภาวะปากบวมใหญ่หลอก (Pseudo macrocheilia) 
4. ผู้ที่มีภาวะอักเสบอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้การผ่าตัดยากและซ้ำซ้อนมากขึ้น

ด่านที่ 2 เช็กเสร็จแล้วดูอีกหน่อยเหมาะกับเราไหม

     ถึงปากกระจับจะเป็นเทรนด์ที่มาแรงแค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ นอกจากกลุ่มด้านบนในด่านแรกแล้วก็ยังมีที่ผู้ที่เนื้อปากน้อยหรือบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ควรทำ เพราะอาจเกิดปัญหาปากไม่เท่ากันหรือปากปิดไม่สนิทได้ แล้วใครล่ะที่จะทำแล้วเหมาะ ? 

1. คนที่ปากคว่ำ เพราะการทำปากกระจับจะยกมุมปากขึ้นทำให้หมดปัญหาหน้าดุเปลี่ยนเป็นหน้าหวาน
2. คนที่มีปัญหาปากบนหนา ใหญ่ และไม่เป็นทรง
3. คนที่เนื้อปากไม่หนามากเกินแต่อยากให้ปากเป็นทรงที่ชัดเจน
4. คนที่มีเนื้อปากด้านในปลิ้นออกมาเมื่อยิ้ม เกิดจากการที่บริเวณริมฝีปากมีเนื้อด้านในมากเกินไป ในบางรายอาจเกิดจากการเรียงตัวของฟัน

     แต่ในบางกรณีหากมีคนไข้ที่ได้รับอุบัติเหตุหรือรูปทรงปากไม่เท่ากันจริง ๆ แล้วต้องการศัลยกรรมเพื่อรักษาก็สามารถทำได้ แต่ควรอยู่ในการประเมินของแพทย์ผู้ดูแลว่ารูปทรงปากแบบไหนที่เหมาะกับการรักษาคนไข้ในเคสนั้น ๆ 

ด่านที่ 3 รองสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

     มาค่ะเกือบถึงด่านสุดท้ายแล้ว ด่านนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนทำปากกระจับ เมื่อมาถึงด่านนี้แปลว่าเพื่อน ๆ ตัดสินใจจะทำไปแล้ว 80% งั้นมาดูกันดีกว่าว่าก่อนทำควรเตรียมตัวยังไงบ้าง

1. ศึกษาข้อมูล แน่นอนว่าก่อนเราจะตัดสินใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามควรหาข้อมูลก่อนเสมอ เพื่อชั่งใจและเตรียมตัวรับมือกับเรื่องนั้น ๆ 
2. ปรึกษาแพทย์ ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์กับคลินิกที่เราตกลงปลงใจจะทำ เพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงและรูปทรงปากเดิมของเรา
3. งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว แว็กซ์ขน ยากลุ่มแอสไพรินและกลุ่ม NSAIDs
4. งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายหนัก
5. งดวิตามิน St.Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E

ด่านที่ 4 บ๊ายบายปากเก่าต้อนรับปากใหม่

     ด่านสุดท้ายด่านที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจทำปากกระจับและเข้ารับการศัลยกรรมเรียบร้อย คราวนี้เรามาดูวิธีดูแลหลังทำกันบ้างดีกว่า

1. นอนหงายศีรษะสูง งดนอนตะแคง 7 วัน เพื่อลดอาการบวมช้ำ
2. งดแปรงฟัน 3 วันแรก ให้ใช้วิธีการบ้วนปากด้วยสูตรอ่อนโยนแทน วันที่ 4 เริ่มแปรงฟันเบา ๆ ได้แต่แนะนำให้ใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันของเด็กไป 7 วัน
3. งดการเคี้ยวอาหารและอ้าปากกว้าง หลีกเลี่ยงการหัวเราะ 7 วัน
4. งดอาหารร้อน รสจัด เผ็ด ของหมักดอง และอาหารเสริม 1 สัปดาห์
5. ประคบเย็น 3 วัน
6. ห้ามใช้ลิ้นดุนแผลและห้ามดึงไหมเย็บแผลเด็ดขาด
7. งดทาลิปมัน 2 สัปดาห์
8. ทาขี้ผึ้งที่แพทย์สั่งเบา ๆ วันละ 3-4 ครั้ง และทานยาแก้อักเสบร่วมด้วย
9. งดแอลกอฮอล์ การออกกำลังกาย และการจูบปาก 2 สัปดาห์
10. ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือสะอาด โดยเฉพาะ 2-3 วันแรก

     จบไปแล้วกับ 4 ด่านเกี่ยวกับการศัลยกรรมปากกระจับ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำปากกระจับมากขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจของเพื่อน ๆ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า