ปีกจมูกกว้าง บาน และใหญ่ จบได้ด้วยการตัดปีกจมูก จริงหรอ?

       หลายคนในที่นี้อาจกำลังประสบปัญหากับทรงของจมูกที่ดูไม่สวย ทั้งปีกจมูกกว้าง บาน ใหญ่ ไม่ได้สัดส่วน อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ การศัลยกรรมจมูกเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัยการตัดปีกจมูกร่วมด้วย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าจมูกของเรานั้นควรตัดปีกจมูกหรือเปล่า?

       วันนี้รณภีร์ คลินิก จะพาทุกคนไปรู้จักกับการตัดปีกจมูก รวมไปถึงข้อควรรู้ต่างๆ ให้มากขึ้น ผ่านบทความนี้ไปพร้อมกันค่ะ

       ตัดปีกจมูก คืออะไร
       การตัดปีกจมูก ( Alarplasty ) คือการปรับรูปทรงของจมูกให้มีความแคบลง โดยปกติแล้วจะทำร่วมกับการศัลยกรรมจมูก เพื่อให้จมูกที่ดูสวยและดูเป็นธรรมชาติ บริเวณปีกจมูกมีโครงสร้างที่สำคัญก็คือกระดูกอ่อน หากตัดบริเวณนี้ออกไปแล้ว จะทำให้จมูกเล็กลง ปีกจมูกแคบลง โดยเทคนิคการตัดปีกจมูกมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้และการประเมินของแพทย์

       แล้วทำไมถึงต้องตัดปีกจมูก
       ปกติแล้วธรรมชาติของชาวเอเชียนั้นจะมีปีกจมูกที่กว้าง บาน เนื้อเยอะ และใหญ่ ซึ่งหากการศัลยกรรมจมูกเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ไขได้ จึงต้องอาศัยการตัดปีกร่วมด้วย จึงจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ และได้ผลลัพธ์ที่จมูกดูเล็กลง และดูมีมิติมากขึ้น



       วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าจมูกแบบไหนควรที่ตัดปีกจมูก คือเมื่อเวลาที่เราเงยหน้าขึ้นแล้วรู้สึกว่าปลายปีกจมูกเริ่มเลยหัวตาแล้ว แสดงว่าปลายปีกจมูกของเราเริ่มบาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตัดปีกจมูกค่ะ

       4 เทคนิคของการตัดปีกจมูก
       1.ตัดปีกจมูกแผลนอก
       เป็นการตัดเพื่อเอาเนื้อบริเวณปีกจมูก ออก 1-2 มม. แล้วเย็บปิดแผล เทคนิคนี้จะช่วยลดขนาดปีกจมูกให้แคบลง เหมาะสำหรับคนที่มีปีกจมูกบานให้แคบลงได้
       2.ตัดปีกจมูกด้านนอก และด้านในจมูก
       เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดรูจมูก และปีกให้แคบลง เหมาะสำหรับคนที่มีรูจมูกใหญ่ ปีกจมูกบาน
       3.ตัดปีกจมูกแผลใน
       เป็นการผ่าตัดโดยที่แผลจะถูกซ่อนอยู่ด้านในและใต้ปีกจมูก ช่วยลดขนาดปีกจมูกได้ จึงไม่เห็นรอยแผลของการผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่รูจมูกกว้างและแบน
      4.ตัดด้านในฐานจมูก
      เป็นการผ่าตัดโดยเปิดแผลตรงมุมปีกจมูกด้านใน และตัดเนื้อปีกจมูกออก 1-2 มม. ช่วยให้ปีกจมูกบางลง เหมาะสำหรับคนที่รูจมูกเล็ก



      ข้อควรรู้เบื้องต้นก่อนตัดปีกจมูก
      1.การผ่าตัดปีกจมูกนั้น มี 2 แบบ แบบใช้ยาสลบ และแบบที่ใช้ยาชา
      2.ระยะเวลาในการผ่าตัด ประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเคส
      3.หลังจากทำผ่าตัดไปแล้ว 7 วัน แพทย์จะนัดเพื่อ Follow Up แผล
      4.หลังจากทำผ่าตัดไปแล้ว 14 วัน คลินิกจะนัดเพื่อทำการตัดไหม
      5.หลังจากตัดไหมไปแล้ว ใช้ระยะเวลา 7 -14 วัน เพื่อพักฟื้นแผล

      การเตรียมตัวก่อนตัดปีกจมูก
      1.ถ้ามีแผลหรือสิ่งที่บริเวณจมูกหรือปลายจมูก ควรรอให้สิวหรือแผลหายก่อนจึงจะทำการผ่าตัดได้
      2.งดยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน และยาที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด
      3.งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
      4.งดรับประทานทานอาหารประเภทของแสลง
      5.หากมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการผ่าตัด

      การดูแลหลังตัดปีกจมูก
      1.ในช่วง 2-3 วันแรก ควรประคบเย็นบ่อยๆ และนอนศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการบวม
      2.ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าจะตัดไหม
      3.ทายาลดรอยแผลเป็น บริเวณรอยเย็บที่ปีกจมูกอย่างสม่ำเสมอ
      4.งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และของแสลง
      5.หลังการผ่าตัด 1 เดือน แพทย์จะนัดตรวจแผลอีกครั้ง

      เห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าการตัดปีกจมูก ( Alarplasty ) เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาจมูกกว้าง บาน ใหญ่ได้ทั้งหมด ทั้งนี้อาจต้องอาศัยการศัลยกรรมจมูกร่วมด้วย และต้องให้แพทย์คอยประเมินเป็นเคสๆ ไป เพราะปัญหาจมูกของเราแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน การให้แพทย์ประเมินทุกครั้ง ก่อนการศัลยกรรมจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

       หากใครยังไม่มั่นใจสามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Line Official : @rpcclinic